หน้าเว็บ

2553/04/28

แฟชั่นชุดทำงานเกาหลี

1 ความคิดเห็น

แต่งตัว สวย มัดใจ ทุก สายตา แม้เวลา ทำงาน


ภาพประกอบจาก http://www.taayaa.com/


ขึ้นชื่อว่าเกิดเป็น “ผู้หญิง” ต้อง “สวย”ไว้ก่อน แต่สำหรับมาทำงาน จะต้องแต่งตัวอย่างไรให้เหมาะสม แต่สวยเก๋สไตล์คุณได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวเชย ลองมาดูกัน

1.สิ่งแรกที่ควรจะมีคือความสะอาดเรียบร้อย
จะมาติดแต่งเซอร์หรืออินตามแฟชั่นมาทำงานก็คงไม่ไหว ควรเลือกเสื้อผ้าที่ดูดี รีดเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อผ้าที่มีราคาแพง

2.แต่งกายให้เข้ากับคนรอบข้าง
เมื่อเข้าทำงานใหม่ ๆให้สังเกตุรอบว่าคนรอบข้างเข้าแต่งตัวกันประมาณไหน แล้วควรแต่งกายให้คล้ายกับคนรอบข้าง เสื้อผ้าไม่ควรแปลกตาเกินไปแต่จะเหมือนยังกะฝาแฝดก็ไม่สมควร เพราะไม่มีใครอยากแต่งแล้วเหมือนคนอื่น เอาคล้ายพอค่ะ ที่แน่ๆเลือกแบบเรียบๆจะให้ความรู้สึกสดใสและดูดีมากที่สุด

3.ทรงผม
ไม่ว่า จะผมสั้น ผมยาว ให้เลือกทำทรงที่ไม่เกะกะใบหน้าของเราเวลาทำงาน แต่ถ้าไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้ก็เป็นกรณียกเว้นคะ ถ้าอยยากเก็บผมขึ้นเพื่อไม่ให้เกะกะบนใบหน้าควรใช้เครื่องประดับแต่น้อย

4.เครื่องสำอาง
เครื่องสำอาง แต่งหน้าแบบเป็นธรรมชาติจะดูดีที่สุด ควรเลือกใช้อายแชโดว์และลิปสติกสีอ่อนๆ แต่ไม่ใช่อ่อนจนหน้าซีดเซียว ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เพิ่มความสดใสด้วยการเติมแก้ม ที่สำคัญไม่ควรแต่งหน้าเข้มในฐานะที่เราเป็นเด็กใหม่ “สวย ใส” นั้นแหละเหมาะสุด

5.เล็บมือ
เล็บมือ เล็บยาวหรือเล็บที่ตกแต่งแบบแฟชั่น ไม่เหมาะกับการมาทำงาน แต่สำหรับคนที่ชอบทาเล็บแนะนำ สีเบจ สีขาวมุก จะทำให้ดูเรียบหรู หรือสีแดงใส สีชมพูอ่อน ทำให้ดูมีชีวิวชีวาขึ้น แต่ระวังสีทาเล็บที่หลุดออกจะดูไม่เรียบร้อย

6.ความคล่องตัว
แม้บางบริษัทจะไม่มีเครื่องแบบพนักงานแต่ก็ยังต้องการ “ความคล่องตัว” เพื่อให้เหมาะกับการทำงาน เสื้อที่ใส่แล้วดูทะมัดทะแมงวมหรือรองเท้ากีฬา ก็เป็นการแสดงความมี”สปิริต” อย่างหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานของแต่ละคนนะค่ะ

7.นอกจากการแต่งกายแล้ว ความสดใส กลิ่นกายที่หอมแบบพอดี
แต่การใส่น้ำหอมเพื่อให้มีกลิ่นกายที่ดีถือว่าไม่เหมาะสม(แต่ก็ใส่กลิ่นอ่อนๆมาได้ค่ะ) การแต่งหน้าควรแต่งให้เป็นธรรมชาติ แต่ใบหน้าที่เปลือยเปล่าถือเป็นเรื่องผิดมารยาททางสังคม อย่างน้อยควรตกแต่งรูปคิ้ว ใช้ครีมรองพื้นและทาลิปสติกบางๆ

8.บริษัทที่มีเครื่องแบบพนักงาน
ควรแต่งตัวให้สมกับออกไปทำงาน ถ้าป็นกระโปรงก็อย่าสั้นจนเกินไป

9.การแต่งกายเมื่อทำงานในวันหยุด
เมื่อเป็นวันที่ค่อนข้างสบาย ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ดูสบายเกินไป เช่น เสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือเสื้อกล้าม ห้ามค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องใส่สูท



เอาเป็นว่าจะเลือกแต่งอย่างไรก็ได้ให้เหมาะกับคุณที่สุด ถ้าคิดไม่ออกลองมาดูแฟชั่นชุดทำงานออฟฟิต อินเทรนด์จากเกาหลีกันเลย























ภาพประกอบจาก
ขอบคุณข้อมูลและรวบรวมภาพโดย
http://women.mthai.com/

รองเท้าแบบไหนที่สาวๆ ชอบใส่กัน

0 ความคิดเห็น
รองเท้าแบบไหนที่สาวๆ ชอบใส่เป็นประจำ


1. รองเท้าหัวแหลมสีสันแรงๆ 28%




















2. บูทสุดเปรี้ยว 2%












3. รองเท้าหัวมนส้นเตี้ย 46%






















4. รองเท้าผ้าใบแบบเทห์ๆ 24%















ขอบคุณข้อมูลจากโพลจากสาวๆ women.mthai.com

เทคนิคมีพวงแก้ม สวยสดใส

0 ความคิดเห็น
เทคนิคมีพวงแก้ม สวยสดใส







นอกจากการเลือกบลัชออนสีชมพูระเรื่อสดใสให้พวงแก้มแล้ว อุปกรณ์ในการปัดแก้มก็มีความสำคัญไม่น้อย


ลองเลือกแปรงปัดแก้มขนาดเหมาะมือที่มีน้ำหนักพอดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป ลองจับดูว่าเมื่อใช้ในการปัดแก้มสามารถมอบน้ำหนักของสีสันได้พอดีในการปัด เพียงไม่กี่ครั้ง เลือกชนิดที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติจะให้สัมผัสที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่สร้างความระคายเคือง


แต่ถ้าคุณชอบ บลัชออนเนื้อครีม แนะให้ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนางในการแตะเนื้อครีม เพื่อให้น้ำหนักนิ้วที่พอเหมาะมากกว่านิ้วชี้ที่อาจให้น้ำหนักกดที่มากเกิน ไปจนสีแก้มไม่ดูระเรื่อแบบธรรมชาติ





ที่มาจาก นิตยสารคู่หูเดินทาง

ขอบคุณรายละเอียดจาก http://www.women.mthai.com/

ทรงผมสั้นมาแรง

0 ความคิดเห็น
ผมสั้นมาแรง


ร้อน ๆ อย่างนี้คงมีใครอยากเปลี่ยนมาตัดผมสั้น ๆ กันมั่งล่ะ
เรามีเทรนด์ผมสั้นทันสมัยใหม่ล่าสุดมาฝาก








1. The Curl Rebound

ถ้าใจยังไม่กล้าพอจะหั่นผมสั้นกุดละก็ ลองมาดูเวอร์ชั่นใหม่ของผมบ็อบที่สวยเก๋ด้วยคลื่นผมที่ดูโรแมนติก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผมโทนสีบลอนด์ที่ดูเย้ายวน











2. The Pixie Remix

ผมสั้นสะใจที่ใช้เส้นสายแบบเรขาคณิตเข้ามาช่วย ด้วยการตัดผมหน้าม้าเป็นสองชั้น และไล่เลเยอร์ผมให้ดูนุ่มนวล แล้วเติมเสน่ห์ด้วยการผสานสีมอคค่ากับสีคาราเมล ที่เพิ่มมิติให้เส้นผม

Tip

อยากให้ดูอ่อนหวานขึ้น ลองเติมลอนเข้าไปที่ปลายผมให้ผมดูมีวอลุ่มขึ้นแบบนี้ดูสิ














3. The Triple Disconnect

ผมสั้นเรียบตรงพร้อมผมม้าปาดข้าง และซอยผมไล่เลเยอร์ ให้ผมดูมีวอลุ่มยิ่งขึ้น ผมทรงนี้ไปกันได้ดีกับ


สีแดงเจิดจ้าดูท้าทาย

Tip

อยากเปรี้ยวขึ้นอีกนิด ลองเซ็ตให้ปลายผมชี้ ๆ และมีลอนนิด ๆ แบบนี้ดูสิ




ข้อมูลจาก



ประกอบจาก
- rasysa.com
- lucido-l.jp
- b2c.co.jp


ขอบคุณรายละเอียดจาก http://www.women.mthai.com

2553/04/25

กูต้าไธโอน คืออะไร

0 ความคิดเห็น






บทความ ว่าด้วยเรื่องของ "กูต้าไธโอน"



กลูต้าไธโอน (Glutathione,GSH) มีฤทธิ์จำเพาะในการป้องกันเซลล์ภูมิคุ้มกันจากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ ในขณะที่เซลล์เม็ดเลือดขาวทำลาย (oxidize) สารแปลกปลอมเช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือเซลล์มะเร็ง จะสร้างอนุมูลอิสระเกิดขึ้นซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเซลล์อื่นๆ รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวเองด้วย กลูต้าไทโอน ออกฤทธิ์เป็นเกราะป้องกันเม็ดเลือดขาวโดยทำลายอนุมูลอิสระ ระดับของกลูต้าไทโอนในเซลล์จะลดลงขณะที่มีอายุมากขึ้น และพบระดับลดลงมากในผู้ป่วยที่เป็นโรคจากการเสื่อมของเซลล์ (degenerative disease)เช่นโรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ และ โรคพาร์กินสัน



กลูต้าไทโอนไม่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารเสริมได้ เพราะจะถูกทำลายในทางเดินอาหาร แต่การเสริมด้วยวิตามินซีและกรดอัลฟ่าไลโปอิค(alpha-lipoic acid) จะช่วยเพิ่มระดับของกลูต้าไทโอนในเซลล์ หรือการเสริมด้วยกรดอะมิโนเช่น กลูตามีน เมไทโอนีน และ ซีสเตอีน ซีสเตอีนนี้อาจใช้ในรูป N-acetyl-cysteine ( NAC) ซึ่งดูดซึมได้ดี ตัว NAC เองก็มีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ และช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไทโอนในเซลล์ ซึ่งอาจให้ในขนาด 500 มก.ต่อวัน




Glutathione = กูต้าไธโอน(GSH) เป็น กรด "อะมิโน" 3 ตัวเรียงต่อกัน ประกอบไปด้วย glutamine cysteine glycine (อันมีตัวย่อ Glu, Cys, Gly respectively)



หน้าที่ของ GSH จริงๆคือ เป็นตัว จับสารพิษเพื่อลดความเป็นพิษ คล้ายกับที่เรา มีโซ่ตรวนพร้อมลูกตุ้มสำหรับถ่วงขาคนร้ายในคุก (ในการ์ตูน)



ส่วนคนที่ทำหน้าที่ จับคนร้าย (สารพิษ) ไปมัดกับโซ่ตรวน (GSH) ก็คือ เอนไซม์ ในร่างกาย



มีโซ่เยอะ คนจับน้อย ก็ไม่ค่อยดี
มีโซ่น้อย คนจับเยอะ ก็ไม่ค่อยดี
มีโซ่เยอะ คนจับเยอะ นั่นแหละดี



ตัวคนจับ จะเยอะหรือป่าวขึ้นกับ พันธุกรรม เป็นหลัก กระตุ้นได้ แต่ไม่นานก็ลดลง



แล้วถ้าเราจะเพิ่ม GSH (กูต้าไธโอน) แทน เราจะทำ อย่างไรดี?
ตามความเป็นจริง ถ้าร่างกายเราไม่มีพยาธิสภาพมันก็สร้างได้ในปริมาณที่เพียงพอกับการใช้อยู่แล้ว ถ้ามีวัตถุดิบเพียงพอ



แล้วอะไรคือ วัตถุดิบของ GSH (กูต้าไธโอน) หละ?
อย่างที่บอกไว้ข้างต้น GSH ประกอบขึ้นจาก Glu Cys Gly 3 ตัว ตัวแรกกับตัวสุดท้ายนี่ สร้างได้ง่ายดายมาก แถมเยอะในอาหารแทบ ทุกชนิดที่เป็นโปรตีนแต่ Cysteine (Cys) ตัวกลางนี่แหละ ปัญหา



Cysteine เป็นกรดอะมิโน สำคัญมากในการสร้าง เอนไซม์ และโปรตีนแทบทุกชนิด การสร้าง cys ต้องมีธาตุโลหะด้วย มันต้องการ "กำมะถัน" หรือ Sulfur เป็นส่วนประกอบ การทานอาหารที่มี Sulfur สูงๆ ย่อมมีผลต่อปริมาณ Cys ที่จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่จ้องจะกินกำมะถัน ทั้งวัน แบบนั้นก็คงหารอดไม่



อาหารที่มีกำมะถันสูง เท่าที่ทราบคือ ทุเรียน หาง่ายทานง่ายหรือป่าวไม่ทราบแต่ทานมากระวังร้อนใน



บางคนลักไก่หน่อย ทาน Cysteine เข้าไปเลยเพราะเป็นกรด อะมิโน ดูดซึมได้แน่นอนแต่ "แพง" ...



อีกตัวที่นิยมกัน (เห็นในนี้ โปรโมตกันสุดฤทธิ์) คือ NAC N-Acetyl-L-Cysteine มันก็คือ Cys ที่มีหน้าตาแปลกไปนิดนึง แต่ร่างกายใช้งานได้ ดูดซึมได้ ส่วน ราคาก็อย่างว่า ของสกัดไม่เคยมี ของถูก แบบสมกับคุณภาพเสียที



ตัว L-Cysteine เนี่ย ทำที่ให้ขาวได้เพราะจะทำให้ร่างกายเราสร้าง กลูต้าไธโอนได้เองไงคะ ทำให้สีผิวเราดูขาวเปล่งปลั่งได้
ดังนั้นตัวที่ทำให้ขาวได้จริงๆคือ L-Cysteine นี่แหละค่ะ



ดังนั้น ตัวโปรฟิมินที่ทำให้ขาวได้ เพราะมี แอล ซีสเตอีนค่ะ เร็วๆ นี้ ทางร้าน จะนำตัวนี้เข้ามาขาย แต่ช่วงนี้ขอให้แม่ค้าคนนี้ลองทานก่อนนะคะ แล้วจะมาบอกผลอีกทีว่าเป็นอย่างไร หากได้ผลดี รับรองค่ะ นำมาขายให้ทุกท่านได้ซื้อไปอย่างแน่นอน



อ่านแล้วพอจะเห็นภาพกันรึป่าวค่ะ พูดง่ายกันเลยก็คือ เจ้าตัวกลูต้าไธโอนนั้นจะถูกย่อยสลายในระบบทางเดินอาหาร ไม่ตกไปถึงลำไส้เล็กเพื่อดูดซึมไปใช้หรอกค่ะ แต่ตัวแอลซีสเตอีนเนี่ยมันจะไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหารค่ะ พอไปสู่ลำไส้เล็กจึงถูกดูดซึมไปให้ร่างกายสร้างกลูต้าไธโอนได้นั่นเอง เอาเป็นว่า เร็วๆ นี้ร้านของเราจะมีตัว แอลซีสเตอีนมาวางจำหน่ายนะคะ ใครสนใจ ติดตามทางร้านเราได้ตลอดเลยค่ะ























บทความนี้ได้มาจาก http://www.miss-beautyperfect.com/















2553/04/19

Update เทรนเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี

0 ความคิดเห็น






2553/04/18

ร้อนนี้เที่ยวทะเลดีกว่า.......

0 ความคิดเห็น



ร้อนนี้ หรรษาเที่ยวทะเลทั่วไทยกับโปรโมชั่นดี ลดสูงสุด 75%

2553/04/16

สถานที่ท่องเที่ยว

0 ความคิดเห็น
อยุธยา
กรุงเทพ
บุรีรัมย์
ภาคกลาง
ชะอำ
ฉะเชิงเทรา
ชัยนาท
จันทบุรี
เชียงใหม่
เชียงราย
ชลบุรี
ชุมพร
ภาคตะวันออก
สงขลา/ หาดใหญ่
หัวหิน / ปราณบุรี / ประจวบฯ
หัวหิน
กำแพงเพชร
กาญจนบุรี
พังงา (เขาหลัก)
เขาใหญ่ / นครราชสีมา
ขอนแก่น
เกาะช้าง
เกาะกูด
เกาะลันตา
สตูล/ เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหมาก
เกาะไหง / ตรัง
เกาะพงัน
เกาะพีพี
เกาะเสม็ด
เกาะสมุย
เกาะเต่า
กระบี่
ลำปาง
ลำพูน
เลย
ลพบุรี
แม่ฮ่องสอน (ปาย)
มุกดาหาร
นครนายก
นครพนม
นครสวรรค์
นครศรีธรรมราช
นครปฐม
นครราชสีมา (โคราช)
นราธิวาส
หนองคาย
นนทบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคเหนือ
ปาย / แม่ฮ่องสอน
พัทยา
เพชรบูรณ์
พะเยา
พิษณุโลก
ภูเก็ต
ปราจีนบุรี
ประจวบคีรีขันธ์
ระนอง
ราชบุรี
ระยอง
ร้อยเอ็ด
สระแก้ว
สมุทรปราการ
สมุทรสงคราม
สระบุรี
ภาคใต้
สุโขทัย
สุพรรณบุรี
สุราษฎร์ธานี
สุรินทร์
ตาก
ตรัง/ เกาะไหง
ตราด
อุบลราชธานี
อุดรธานี
อุทัยธานี
ยโสธร

2553/04/28

แฟชั่นชุดทำงานเกาหลี

แต่งตัว สวย มัดใจ ทุก สายตา แม้เวลา ทำงาน


ภาพประกอบจาก http://www.taayaa.com/


ขึ้นชื่อว่าเกิดเป็น “ผู้หญิง” ต้อง “สวย”ไว้ก่อน แต่สำหรับมาทำงาน จะต้องแต่งตัวอย่างไรให้เหมาะสม แต่สวยเก๋สไตล์คุณได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวเชย ลองมาดูกัน

1.สิ่งแรกที่ควรจะมีคือความสะอาดเรียบร้อย
จะมาติดแต่งเซอร์หรืออินตามแฟชั่นมาทำงานก็คงไม่ไหว ควรเลือกเสื้อผ้าที่ดูดี รีดเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อผ้าที่มีราคาแพง

2.แต่งกายให้เข้ากับคนรอบข้าง
เมื่อเข้าทำงานใหม่ ๆให้สังเกตุรอบว่าคนรอบข้างเข้าแต่งตัวกันประมาณไหน แล้วควรแต่งกายให้คล้ายกับคนรอบข้าง เสื้อผ้าไม่ควรแปลกตาเกินไปแต่จะเหมือนยังกะฝาแฝดก็ไม่สมควร เพราะไม่มีใครอยากแต่งแล้วเหมือนคนอื่น เอาคล้ายพอค่ะ ที่แน่ๆเลือกแบบเรียบๆจะให้ความรู้สึกสดใสและดูดีมากที่สุด

3.ทรงผม
ไม่ว่า จะผมสั้น ผมยาว ให้เลือกทำทรงที่ไม่เกะกะใบหน้าของเราเวลาทำงาน แต่ถ้าไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้ก็เป็นกรณียกเว้นคะ ถ้าอยยากเก็บผมขึ้นเพื่อไม่ให้เกะกะบนใบหน้าควรใช้เครื่องประดับแต่น้อย

4.เครื่องสำอาง
เครื่องสำอาง แต่งหน้าแบบเป็นธรรมชาติจะดูดีที่สุด ควรเลือกใช้อายแชโดว์และลิปสติกสีอ่อนๆ แต่ไม่ใช่อ่อนจนหน้าซีดเซียว ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เพิ่มความสดใสด้วยการเติมแก้ม ที่สำคัญไม่ควรแต่งหน้าเข้มในฐานะที่เราเป็นเด็กใหม่ “สวย ใส” นั้นแหละเหมาะสุด

5.เล็บมือ
เล็บมือ เล็บยาวหรือเล็บที่ตกแต่งแบบแฟชั่น ไม่เหมาะกับการมาทำงาน แต่สำหรับคนที่ชอบทาเล็บแนะนำ สีเบจ สีขาวมุก จะทำให้ดูเรียบหรู หรือสีแดงใส สีชมพูอ่อน ทำให้ดูมีชีวิวชีวาขึ้น แต่ระวังสีทาเล็บที่หลุดออกจะดูไม่เรียบร้อย

6.ความคล่องตัว
แม้บางบริษัทจะไม่มีเครื่องแบบพนักงานแต่ก็ยังต้องการ “ความคล่องตัว” เพื่อให้เหมาะกับการทำงาน เสื้อที่ใส่แล้วดูทะมัดทะแมงวมหรือรองเท้ากีฬา ก็เป็นการแสดงความมี”สปิริต” อย่างหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานของแต่ละคนนะค่ะ

7.นอกจากการแต่งกายแล้ว ความสดใส กลิ่นกายที่หอมแบบพอดี
แต่การใส่น้ำหอมเพื่อให้มีกลิ่นกายที่ดีถือว่าไม่เหมาะสม(แต่ก็ใส่กลิ่นอ่อนๆมาได้ค่ะ) การแต่งหน้าควรแต่งให้เป็นธรรมชาติ แต่ใบหน้าที่เปลือยเปล่าถือเป็นเรื่องผิดมารยาททางสังคม อย่างน้อยควรตกแต่งรูปคิ้ว ใช้ครีมรองพื้นและทาลิปสติกบางๆ

8.บริษัทที่มีเครื่องแบบพนักงาน
ควรแต่งตัวให้สมกับออกไปทำงาน ถ้าป็นกระโปรงก็อย่าสั้นจนเกินไป

9.การแต่งกายเมื่อทำงานในวันหยุด
เมื่อเป็นวันที่ค่อนข้างสบาย ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ดูสบายเกินไป เช่น เสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือเสื้อกล้าม ห้ามค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องใส่สูท



เอาเป็นว่าจะเลือกแต่งอย่างไรก็ได้ให้เหมาะกับคุณที่สุด ถ้าคิดไม่ออกลองมาดูแฟชั่นชุดทำงานออฟฟิต อินเทรนด์จากเกาหลีกันเลย























ภาพประกอบจาก
ขอบคุณข้อมูลและรวบรวมภาพโดย
http://women.mthai.com/

รองเท้าแบบไหนที่สาวๆ ชอบใส่กัน

รองเท้าแบบไหนที่สาวๆ ชอบใส่เป็นประจำ


1. รองเท้าหัวแหลมสีสันแรงๆ 28%




















2. บูทสุดเปรี้ยว 2%












3. รองเท้าหัวมนส้นเตี้ย 46%






















4. รองเท้าผ้าใบแบบเทห์ๆ 24%















ขอบคุณข้อมูลจากโพลจากสาวๆ women.mthai.com

เทคนิคมีพวงแก้ม สวยสดใส

เทคนิคมีพวงแก้ม สวยสดใส







นอกจากการเลือกบลัชออนสีชมพูระเรื่อสดใสให้พวงแก้มแล้ว อุปกรณ์ในการปัดแก้มก็มีความสำคัญไม่น้อย


ลองเลือกแปรงปัดแก้มขนาดเหมาะมือที่มีน้ำหนักพอดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป ลองจับดูว่าเมื่อใช้ในการปัดแก้มสามารถมอบน้ำหนักของสีสันได้พอดีในการปัด เพียงไม่กี่ครั้ง เลือกชนิดที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติจะให้สัมผัสที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่สร้างความระคายเคือง


แต่ถ้าคุณชอบ บลัชออนเนื้อครีม แนะให้ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนางในการแตะเนื้อครีม เพื่อให้น้ำหนักนิ้วที่พอเหมาะมากกว่านิ้วชี้ที่อาจให้น้ำหนักกดที่มากเกิน ไปจนสีแก้มไม่ดูระเรื่อแบบธรรมชาติ





ที่มาจาก นิตยสารคู่หูเดินทาง

ขอบคุณรายละเอียดจาก http://www.women.mthai.com/

ทรงผมสั้นมาแรง

ผมสั้นมาแรง


ร้อน ๆ อย่างนี้คงมีใครอยากเปลี่ยนมาตัดผมสั้น ๆ กันมั่งล่ะ
เรามีเทรนด์ผมสั้นทันสมัยใหม่ล่าสุดมาฝาก








1. The Curl Rebound

ถ้าใจยังไม่กล้าพอจะหั่นผมสั้นกุดละก็ ลองมาดูเวอร์ชั่นใหม่ของผมบ็อบที่สวยเก๋ด้วยคลื่นผมที่ดูโรแมนติก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผมโทนสีบลอนด์ที่ดูเย้ายวน











2. The Pixie Remix

ผมสั้นสะใจที่ใช้เส้นสายแบบเรขาคณิตเข้ามาช่วย ด้วยการตัดผมหน้าม้าเป็นสองชั้น และไล่เลเยอร์ผมให้ดูนุ่มนวล แล้วเติมเสน่ห์ด้วยการผสานสีมอคค่ากับสีคาราเมล ที่เพิ่มมิติให้เส้นผม

Tip

อยากให้ดูอ่อนหวานขึ้น ลองเติมลอนเข้าไปที่ปลายผมให้ผมดูมีวอลุ่มขึ้นแบบนี้ดูสิ














3. The Triple Disconnect

ผมสั้นเรียบตรงพร้อมผมม้าปาดข้าง และซอยผมไล่เลเยอร์ ให้ผมดูมีวอลุ่มยิ่งขึ้น ผมทรงนี้ไปกันได้ดีกับ


สีแดงเจิดจ้าดูท้าทาย

Tip

อยากเปรี้ยวขึ้นอีกนิด ลองเซ็ตให้ปลายผมชี้ ๆ และมีลอนนิด ๆ แบบนี้ดูสิ




ข้อมูลจาก



ประกอบจาก
- rasysa.com
- lucido-l.jp
- b2c.co.jp


ขอบคุณรายละเอียดจาก http://www.women.mthai.com

2553/04/25

กูต้าไธโอน คืออะไร






บทความ ว่าด้วยเรื่องของ "กูต้าไธโอน"



กลูต้าไธโอน (Glutathione,GSH) มีฤทธิ์จำเพาะในการป้องกันเซลล์ภูมิคุ้มกันจากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ ในขณะที่เซลล์เม็ดเลือดขาวทำลาย (oxidize) สารแปลกปลอมเช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือเซลล์มะเร็ง จะสร้างอนุมูลอิสระเกิดขึ้นซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเซลล์อื่นๆ รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวเองด้วย กลูต้าไทโอน ออกฤทธิ์เป็นเกราะป้องกันเม็ดเลือดขาวโดยทำลายอนุมูลอิสระ ระดับของกลูต้าไทโอนในเซลล์จะลดลงขณะที่มีอายุมากขึ้น และพบระดับลดลงมากในผู้ป่วยที่เป็นโรคจากการเสื่อมของเซลล์ (degenerative disease)เช่นโรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ และ โรคพาร์กินสัน



กลูต้าไทโอนไม่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารเสริมได้ เพราะจะถูกทำลายในทางเดินอาหาร แต่การเสริมด้วยวิตามินซีและกรดอัลฟ่าไลโปอิค(alpha-lipoic acid) จะช่วยเพิ่มระดับของกลูต้าไทโอนในเซลล์ หรือการเสริมด้วยกรดอะมิโนเช่น กลูตามีน เมไทโอนีน และ ซีสเตอีน ซีสเตอีนนี้อาจใช้ในรูป N-acetyl-cysteine ( NAC) ซึ่งดูดซึมได้ดี ตัว NAC เองก็มีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ และช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไทโอนในเซลล์ ซึ่งอาจให้ในขนาด 500 มก.ต่อวัน




Glutathione = กูต้าไธโอน(GSH) เป็น กรด "อะมิโน" 3 ตัวเรียงต่อกัน ประกอบไปด้วย glutamine cysteine glycine (อันมีตัวย่อ Glu, Cys, Gly respectively)



หน้าที่ของ GSH จริงๆคือ เป็นตัว จับสารพิษเพื่อลดความเป็นพิษ คล้ายกับที่เรา มีโซ่ตรวนพร้อมลูกตุ้มสำหรับถ่วงขาคนร้ายในคุก (ในการ์ตูน)



ส่วนคนที่ทำหน้าที่ จับคนร้าย (สารพิษ) ไปมัดกับโซ่ตรวน (GSH) ก็คือ เอนไซม์ ในร่างกาย



มีโซ่เยอะ คนจับน้อย ก็ไม่ค่อยดี
มีโซ่น้อย คนจับเยอะ ก็ไม่ค่อยดี
มีโซ่เยอะ คนจับเยอะ นั่นแหละดี



ตัวคนจับ จะเยอะหรือป่าวขึ้นกับ พันธุกรรม เป็นหลัก กระตุ้นได้ แต่ไม่นานก็ลดลง



แล้วถ้าเราจะเพิ่ม GSH (กูต้าไธโอน) แทน เราจะทำ อย่างไรดี?
ตามความเป็นจริง ถ้าร่างกายเราไม่มีพยาธิสภาพมันก็สร้างได้ในปริมาณที่เพียงพอกับการใช้อยู่แล้ว ถ้ามีวัตถุดิบเพียงพอ



แล้วอะไรคือ วัตถุดิบของ GSH (กูต้าไธโอน) หละ?
อย่างที่บอกไว้ข้างต้น GSH ประกอบขึ้นจาก Glu Cys Gly 3 ตัว ตัวแรกกับตัวสุดท้ายนี่ สร้างได้ง่ายดายมาก แถมเยอะในอาหารแทบ ทุกชนิดที่เป็นโปรตีนแต่ Cysteine (Cys) ตัวกลางนี่แหละ ปัญหา



Cysteine เป็นกรดอะมิโน สำคัญมากในการสร้าง เอนไซม์ และโปรตีนแทบทุกชนิด การสร้าง cys ต้องมีธาตุโลหะด้วย มันต้องการ "กำมะถัน" หรือ Sulfur เป็นส่วนประกอบ การทานอาหารที่มี Sulfur สูงๆ ย่อมมีผลต่อปริมาณ Cys ที่จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่จ้องจะกินกำมะถัน ทั้งวัน แบบนั้นก็คงหารอดไม่



อาหารที่มีกำมะถันสูง เท่าที่ทราบคือ ทุเรียน หาง่ายทานง่ายหรือป่าวไม่ทราบแต่ทานมากระวังร้อนใน



บางคนลักไก่หน่อย ทาน Cysteine เข้าไปเลยเพราะเป็นกรด อะมิโน ดูดซึมได้แน่นอนแต่ "แพง" ...



อีกตัวที่นิยมกัน (เห็นในนี้ โปรโมตกันสุดฤทธิ์) คือ NAC N-Acetyl-L-Cysteine มันก็คือ Cys ที่มีหน้าตาแปลกไปนิดนึง แต่ร่างกายใช้งานได้ ดูดซึมได้ ส่วน ราคาก็อย่างว่า ของสกัดไม่เคยมี ของถูก แบบสมกับคุณภาพเสียที



ตัว L-Cysteine เนี่ย ทำที่ให้ขาวได้เพราะจะทำให้ร่างกายเราสร้าง กลูต้าไธโอนได้เองไงคะ ทำให้สีผิวเราดูขาวเปล่งปลั่งได้
ดังนั้นตัวที่ทำให้ขาวได้จริงๆคือ L-Cysteine นี่แหละค่ะ



ดังนั้น ตัวโปรฟิมินที่ทำให้ขาวได้ เพราะมี แอล ซีสเตอีนค่ะ เร็วๆ นี้ ทางร้าน จะนำตัวนี้เข้ามาขาย แต่ช่วงนี้ขอให้แม่ค้าคนนี้ลองทานก่อนนะคะ แล้วจะมาบอกผลอีกทีว่าเป็นอย่างไร หากได้ผลดี รับรองค่ะ นำมาขายให้ทุกท่านได้ซื้อไปอย่างแน่นอน



อ่านแล้วพอจะเห็นภาพกันรึป่าวค่ะ พูดง่ายกันเลยก็คือ เจ้าตัวกลูต้าไธโอนนั้นจะถูกย่อยสลายในระบบทางเดินอาหาร ไม่ตกไปถึงลำไส้เล็กเพื่อดูดซึมไปใช้หรอกค่ะ แต่ตัวแอลซีสเตอีนเนี่ยมันจะไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหารค่ะ พอไปสู่ลำไส้เล็กจึงถูกดูดซึมไปให้ร่างกายสร้างกลูต้าไธโอนได้นั่นเอง เอาเป็นว่า เร็วๆ นี้ร้านของเราจะมีตัว แอลซีสเตอีนมาวางจำหน่ายนะคะ ใครสนใจ ติดตามทางร้านเราได้ตลอดเลยค่ะ























บทความนี้ได้มาจาก http://www.miss-beautyperfect.com/















2553/04/19

Update เทรนเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี







2553/04/18

ร้อนนี้เที่ยวทะเลดีกว่า.......



ร้อนนี้ หรรษาเที่ยวทะเลทั่วไทยกับโปรโมชั่นดี ลดสูงสุด 75%

2553/04/16

สถานที่ท่องเที่ยว

อยุธยา
กรุงเทพ
บุรีรัมย์
ภาคกลาง
ชะอำ
ฉะเชิงเทรา
ชัยนาท
จันทบุรี
เชียงใหม่
เชียงราย
ชลบุรี
ชุมพร
ภาคตะวันออก
สงขลา/ หาดใหญ่
หัวหิน / ปราณบุรี / ประจวบฯ
หัวหิน
กำแพงเพชร
กาญจนบุรี
พังงา (เขาหลัก)
เขาใหญ่ / นครราชสีมา
ขอนแก่น
เกาะช้าง
เกาะกูด
เกาะลันตา
สตูล/ เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหมาก
เกาะไหง / ตรัง
เกาะพงัน
เกาะพีพี
เกาะเสม็ด
เกาะสมุย
เกาะเต่า
กระบี่
ลำปาง
ลำพูน
เลย
ลพบุรี
แม่ฮ่องสอน (ปาย)
มุกดาหาร
นครนายก
นครพนม
นครสวรรค์
นครศรีธรรมราช
นครปฐม
นครราชสีมา (โคราช)
นราธิวาส
หนองคาย
นนทบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคเหนือ
ปาย / แม่ฮ่องสอน
พัทยา
เพชรบูรณ์
พะเยา
พิษณุโลก
ภูเก็ต
ปราจีนบุรี
ประจวบคีรีขันธ์
ระนอง
ราชบุรี
ระยอง
ร้อยเอ็ด
สระแก้ว
สมุทรปราการ
สมุทรสงคราม
สระบุรี
ภาคใต้
สุโขทัย
สุพรรณบุรี
สุราษฎร์ธานี
สุรินทร์
ตาก
ตรัง/ เกาะไหง
ตราด
อุบลราชธานี
อุดรธานี
อุทัยธานี
ยโสธร

 


Beautyperfect Copyright 2008 Shoppaholic Designed by Ipiet Templates Image by Tadpole's Notez